เรามีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตชีวิตและระบบนิเวศทางน้ำต่างๆ

Coral Safe คือ ความมุ่งมั่นของเราที่จะไม่ทำร้ายระบบนิเวศทางน้ำ ทั้งน้ำทะเลและน้ำจืด

หัวใจสำคัญของผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของเราคือความปรารถนาที่จะดูแลและเข้าใจผิวและความต้องการของผิว ซึ่งเป็นแนวทางที่เราดำเนินการมาแล้วกว่า 40 ปี และเราเรียกแนวทางนี้ว่า ecobiology (ชีวนิเวศวิทยา)

แนวทางของชีวนิเวศวิทยา เราถือว่าผิวหนังเป็นระบบนิเวศที่ประกอบด้วยเซลล์ที่มีชีวิตซึ่งมีปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกันอย่างต่อเนื่องและมีปฏิสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อม

ซึ่งหมายความว่าเรามุ่งมั่นอย่างยิ่งที่จะไม่เบียดเบียนสิ่งมีชีวิตทั้งหลายและใส่ใจอย่างลึกซึ้งต่อผลกระทบที่ผลิตภัณฑ์ของเราอาจส่งผลต่อสุขภาพของระบบนิเวศทั้งหมด รวมถึงระบบนิเวศทางน้ำด้วย

เราเรียกแนวทางซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากระบบนิเวศวิทยานี้ว่า “Coral Safe”

“แค่ไม่ทำร้ายระบบนิเวศยังไม่เพียงพอ เราจำเป็นต้องตระหนักถึงโลกที่เราอาศัยอยู่นี้ และบุญคุณที่โลกมีต่อเราด้วย”

 

Jean-Noël Thorel
NAOS President & Founder

การดำเนินการของเราในการปกป้องระบบนิเวศทางน้ำมีพื้นฐานอยู่บนความมุ่งมั่น 3 ประการ ได้แก่

01

การพิจารณาผลกระทบต่อระบบนิเวศทางน้ำทั้งหมด ไม่เพียงแค่ระบบนิเวศทางทะเลเท่านั้น

02

การคัดสรรส่วนผสมทุกชนิดอย่างพิถีพิถันและการทำการวิจัยเพื่อค้นหาส่วนผสมแห่งอนาคต

03

การปกป้องระบบนิเวศขนาดใหญ่ รวมถึงทุ่งหญ้าโพซิโดเนีย (Posidonia meadows)

01. การพิจารณาผลกระทบต่อระบบนิเวศทางน้ำทั้งหมด ไม่เพียงแค่ระบบนิเวศทางทะเลเท่านั้น

ที่ NAOS เราวัดผลกระทบที่ผลิตภัณฑ์ของเรามีต่อแหล่งน้ำ ทั้งน้ำทะเล (ทะเลและมหาสมุทร) และน้ำจืด (ทะเลสาบและแม่น้ำ) ซึ่งอุดมไปด้วยความหลากหลายทางชีวภาพเป็นพิเศษ

ดังนั้นเราจึงทำการทดสอบความเป็นพิษต่อทั้งระบบนิเวศของปะการังและสาหร่าย และยังทำการทดสอบกับแพลงก์ตอนน้ำจืด (Daphnia magna Straus) ด้วยเช่นกัน

illustration naos

เราได้ดำเนินการทดสอบเพื่อให้เป็นไปตามแนวทาง 3 ด้าน ต่อไปนี้

การทดสอบผลกระทบต่อความมีชีวิตอยู่รอดของแนวปะการัง (การสังเกตการหดตัวของโพลิป (polyps) และการฟอกขาวของกิ่งที่ถูกตัด)

การทดสอบการยับยั้งการเจริญเติบโตของสาหร่ายทะเล (Phaeodactylum tricornutum) โดยใช้วิธีการทดสอบตาม NF ISO 10253

 

การทดสอบการยับยั้งการเจริญเติบโตของสาหร่ายทะเล (Phaeodactylum tricornutum) โดยใช้วิธีการทดสอบตาม NF ISO 10253

 

การทดสอบแพลงก์ตอนน้ำจืด (Daphnia magna Straus) โดยใช้วิธีการทดสอบตาม OECD 202 / NF EN ISO 6341

การทดสอบแพลงก์ตอนน้ำจืด (Daphnia magna Straus) โดยใช้วิธีการทดสอบตาม OECD 202 / NF EN ISO 6341

ซึ่งผลิตภัณฑ์กันแดดทุกตัวจาก NAOS ทั้งสามแบรนด์ (Bioderma, Institut Esthederm and Etat Pur) ได้ผ่านการทดสอบทั้ง 3 ด้านนี้

02. การคัดสรรส่วนผสมทุกชนิดอย่างพิถีพิถันและการทำการวิจัยเพื่อค้นหาส่วนผสมแห่งอนาคต

NAOS ได้ประเมินข้อมูลเกี่ยวกับความเป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อมของส่วนผสมทุกชนิด รวมถึงสารกรองแสงแดด (sun filters) และครีมกันแดด (sunscreens) ทั้งหมด และบรรจงคัดสรรส่วนผสมที่จะลดผลกระทบของผลิตภัณฑ์ของเราต่อสิ่งแวดล้อมให้คงเหลือน้อยที่สุด

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง

ผลิตภัณฑ์กันแดดของเราไม่มีสาร ethylhexyl methoxycinnamate (หรือที่เรียกว่า OMC หรือ octinoxate) benzophenone-3 (หรือที่รู้จักในชื่อ oxybenzone) หรือ 4-methylbenzylidenecamphor (4-MBC) เป็นส่วนประกอบ

ผลิตภัณฑ์กันแดดของเราผ่านการคิดค้นสูตรเพื่อให้แน่ใจว่ามีประสิทธิภาพในการกันน้ำได้สูง ดังนั้น แม้ในขณะว่ายน้ำ ผลิตภัณฑ์กันแดดของเราจะยังคงติดทนบนผิวหนังเพื่อปกป้องผิว และลดปริมาณที่จะปนเปื้อนไปในสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด

illustration naos

NAOS กำลังมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์กันแดดแห่งอนาคต

นอกจากนี้ เรายังสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่องและกำลังมองหาส่วนผสมใหม่ๆ ที่จะมาใช้ร่วมกับสารกรองแสงแดดแห่งอนาคต  แนวทางของเราได้รับแรงบันดาลใจมาจากหลักการพื้นฐานประการหนึ่งของเรา นั่นก็คือศาสตร์แห่งการลอกเลียนธรรมชาติของผิว (biomimestism) เพื่อช่วยให้ผิวสามารถปกป้องตัวเองจากอันตรายจากแสงแดดได้ดียิ่งขึ้น โดยการรักษาทรัพยากรที่ผิวมีอยู่ ขณะเดียวกันก็เสริมสร้างระบบการป้องกันตัวเองตามธรรมชาติขึ้นมาด้วย

03. การปกป้องระบบนิเวศขนาดใหญ่ รวมถึงทุ่งหญ้าโพซิโดเนีย (Posidonia meadows)

Jean-Noël Thorel ก่อตั้ง NAOS ชื่นชอบการดำน้ำทะเลลึกและผู้หลงใหลในท้องทะเลอย่างแท้จริง จึงได้วางแนวทางให้ NAOS ดำเนินไปในวิถีแห่งการอนุรักษ์สภาพแวดล้อมทางทะเล โดยมีเป้าหมายเพื่อที่จะฟื้นฟูโพซิโดเนีย พืชน้ำใต้ท้องทะเลขึ้นมาใหม่

NAOS ได้ให้การสนับสนุนสมาคม Andromeda Oceanology ในการพัฒนา 2 โครงการ ได้แก่

การพัฒนา DONIA ซึ่งเป็นแอพพลิเคชันที่ช่วยในการนำทางสำหรับบุคคลทั่วไปในการทอดสมอ โดยช่วยแสดงแผนที่มหาสมุทรใหม่ๆ แก่ผู้ใช้ เพื่อให้สามารถเลือกที่จะทอดสมอบริเวณนอกแนวหญ้าทะเล (seagrass beds) ได้

การจัดหาเงินทุนในการดำเนินการสำคัญๆ เพื่อจัดทำแผนที่ใต้น้ำและการดำเนินการฟื้นฟู เพื่อป้องกันไม่ให้แนวหญ้าทะเลได้รับความเสียหาย

“โพซิโดเนีย (Posidonias) เป็นสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลที่สามารถดักจับคาร์บอนได้มากกว่าไม้ดอกในทะเล (marine flowering plants) ได้มากถึง 4-5 เท่า”

Laurent Ballesta
Naturalist Photograph, Andromède Océanologie Director